ผู้ติดตาม

Contact

about me

gallery

วันจันทร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ติวGATภาษาอังกฤษให้ถูกจุด

  ผมตั้งหัวข้อว่า "ติวGATภาษาอังกฤษให้ถูกจุด" ก็เพื่อจะสะท้อนให้ผู้ที่จะต้องสอบGAT ได้อ่านหนังสือถูกเล่ม อ่านหนังสือแล้วสามารถทำข้อสอบได้ หรือแม้กระทั่งเลือกคอร์สติวGATได้ตรงตามวัตถุประสงค์คือ สามารถทำคะแนนในพาธภาษาอังกฤษได้ 60% (เอาแค่ 60%ก่อนละกันครับ)

  เคยได้ยินไหมครับว่า ขยันผิดที่ มีวินัยผิดเวลา ชาตินี้ก็ไม่มีทางประสบความสำเร็จ ยกตัวอย่างนะครับ หากเราต้องการเป็นแพทย์ และเราอ่อนmathมากๆเราก็เลยทุ่มเทเวลาในการอ่านmathมากกว่าวิชาภาษาอังกฤษซึ่งเป็นวิชาที่เราถนัด

  ผลจะเป็นอย่างไรครับ ผลก็คือเราใช้เวลา 30 ชั่วโมงเพื่อเพิ่มคะแนนmath 3 คะแนน แต่หากเราเอาเวลา 30 ชั่วโมงมาอ่านวิชาภาษาอังกฤษที่เราถนัดละครับ ผลก็น่าจะเป็นว่าเราสามารถทำคะแนนเพิ่ม 30 คะแนน ถูกต้องตามหลักเหตุและผลนะครับ


ข้อสอบภาษาอังกฤษในสนาม Admission หรือสนามไหนๆ ก็หนีไม่พ้นรูปแบบเหล่านี้ครับ

• พาธ Error Identification สำหรับผมพาธนี้ยากมาก รูปแบบโจทย์เราต้องงัดความรู้ทาง Grammar และความเชี่ยวชาญในการหาสังเกตจุดผิดที่มีอยู่ทั้งหมดออกมาใช้  แค่ Grammar ก็แย่ละครับ

• พาธ Cloze Test & Sentence Completion ซึ่งเป็นข้อสอบที่สามารถออกมาเพื่อวัดความรู้ด้าน
Grammar & Vocab ได้ทั้ง 2 ด้านและมีออกมาทุกปี ทุกสนาม เป็นแนวโจทย์ที่น้องๆ ไม่ควรมองข้าม

Reading Comprehension เป็น Part ที่ออกมากที่สุดและเราต้องเก็บคะแนนส่วนนี้ให้ได้ครับ เพราะคะแนนในพาธนี้เยอะมาก เห็นแล้วน้ำลายไหล พาธนี้จะว่ายากก็ยากนะครับ  เพราะต้องใช้ทักษะทุกด้านไม่ว่าจะ Grammar, Vocab รวมไปถึง Structure ก็ต้องแม่น ซึ่งบางครั้ง บางคราว เราอ่านออกทุกตัว แถมรู้คำศัพท์ด้วย(เปิดดิก) แต่แปลไม่รู้เลย  ครับมันยากมาก แต่อยากให้เราทำข้อสอบส่วน Reading Comprehension ก่อน Error Identification เพราะอะไรเหรอครับ บางเรื่องบางเรื่องที่นำมาออกสอบเป็นเรื่องที่เรารู้อยู่แล้ว เป็นเรื่องที่เราชอบอ่าน เช่น เรื่องของไดโนเสาร์ที่เด็กผู้ชายมักรู้เรื่องดี เราไม่ต้องรู้ศัพท์มากก็อ่านออก แปลได้ และที่สำคัญทำข้อสอบได้ด้วยครับ

Vocabulary Test ซึ่งแน่นอนว่าคนรู้ศัพท์มากย่อมได้เปรียบครับ ดังนั้นเราต้องขยันท่องศัพท์มากๆๆแต่การท่องศัพท์อย่างเดียวไม่ทำให้เราสามารถจำได้หรอกครับ เราต้องนำไปใช้ วิธีที่ใช้ได้ดีสุด เกิดประโยชน์สูงสุดคือ นำศัพท์ที่จะท่องไปหาอ่านบทความสั้นๆครับแล้วเราจะได้ทำทั้ง Reading and  Vocabulary

Conversation พาธนี้เป็นพาธที่ตัดคนที่ไม่รู้เรื่องเลยออกจากคนที่พอรู้เรื่องบ้างนะครับ คือมันง่ายมาก แค่เราเรียนรู้ ฝึกฝนทำแบบฝึกหัดบ่อยๆก็ทำพาธนี้ได้แล้ว

ถ้าไม่รู้จะเริ่มพาธไหนหรือทำอะไรก่อนสำหรับคนที่อ่อนภาษาอังกฤษนะครับ ผมแนะนำให้เริ่มจาก Conversation และท่องศัพท์นะครับ เหตุผลที่ให้เริ่มจาก Conversation เพราะมันเป็นอะไรที่อยู่ในชีวิตของเราอยู่แล้วครับ 

"เพราะคำศัพท์เกิดจากการใช้ชีวิต" 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม