ผู้ติดตาม

Contact

about me

gallery

วันพุธที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ติวไวยกรณ์



สวัสดีครับ ท่านผู้ชมทั้งหลาย วันนี้ กระผมใคร่เสนอ เรื่องราวเกี่ยวกับแกรมม่านะครับ เนื่องจากที่ผ่านมา นำแต่เรื่องคำศัพท์มาฝากท่านๆทั้งหลาย


พูดถึงแกรมม่าของภาษาอังกฤษแล้ว คงหนีไม่พ้นเรื่องของ tense นะครับ เพราะผมจำได้ว่าผมเรียนมาตั้งแต่ ป.5 - ปัจจุบัน










tense แปลว่า กาลครับพี่น้อง หรือพูดง่ายๆเลยคือ เวลานั้นเอง

tense มีทั้งหมดหลัก ๆ 3 tense คือ


1.present tense








2.past tense







3.future tense










ซึ่งแต่ละหลัก แบ่งออกเป็นหมวดย่อยๆๆหลักละ 4 หมวดนะครับ มีอะไรบ้าง ไว้รอชมกันตอนต่อไปนะครับ

วันอังคารที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

แจกศัพท์ เก็งข้อสอบ

สวัสดีครับ ท่านผู้อ่านที่เคารพภาษาไหนๆไม่ว่าจะเป็นไทย อังกฤษ ลาว เราเรียนรู้เพื่อการสื่อสารทั้งนั้นครับ
และการที่เราจะเรียนรู้ได้ดีย่อมหนีไม่พ้นการรู้ศัพท์ให้เยอะๆๆ

ปัญหาอยู่ที่ คำศัพท์มีเยอะมาก ท่องเท่าไรก็ไม่จบไม่สิ้น และหากเราเรียนรู้เพื่อการสื่อสารอย่างเดียว คงไม่ลำบากใจนะ แต่เราต้องเรียนรู้เพื่อทำข้อสอบด้วย นี้จึงเป็นปัยหาใหญ่

เพราะหากรู้รู้ศัพทื 1500 คำ แต่ข้อสอบไม่ออกเลยสักคำเราจะทำได้ไหม ก็ไม่น่าจะได้จริงไหมครับ

ครูสมศรี เป็นอีกท่านหนึ่งที่เด็กนักเรียนกล่าวถึงว่าเป็นครูที่สอนดีมาก ไม่สอนเฉพาะวิชาการเท่านั้นแต่สอนเรื่องจริยธรรม รวมทั้งปลุกใจให้นักเรียนมีแรงกระตุ้น

ครั้งหนึ่ง ระหว่างที่ผมกำลังท่องเว็บอยู่ได้ไปเจอ ชีทหรือเอกสารที่ว่ากันว่าครู้สมศรีแจกเพื่อให้นักเรียนท่อง เพราะเป็นคำสัพท์ที่จำเป็นที่ต้องใช้ในการทำข้อสอบ ในระดับ ม.ปลาย

ผมจึงขอใคร่นำมาแจกจ่ายต้องเด้กนักเรียนที่ บังเอิญ,เจตนา เข้ามาที่blog แห่งนี้ครับ

คำศัพท์

วันพุธที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2553

You Belong With Me

You Belong With Me วันนี้ได้ดูมิวสิควีดีโอ เพลงนี้รู้สึกทราบซึ่ง และรู้สึกว่าตัวเองเป็นพระเอกมิวสิคชะงั้น ก้เลยขอนำเพลงมาให้ฟัง













เอาละครับ ผมได้เรียนรู้อะไรบ้างจากเพลงนี้ เริ่มจากชื่อเพลงก่อนนะครับ you belong with me มันแปลว่าอะไร สังเกตุคำว่า be-long ในที่นี้เขียนติดกัน เป็น 1 คำ 2 พยางค์ เป็น belong แปลว่า สมควร

ดังนั้น you belong with me แปลว่า คุณคู่ควรกับฉัน อีกความหมาย เป็นของ แต่ belong ตัวนี้ต้อง ตามด้วย to ถึงจะแปลว่าเป็นของ เช่น my heart belong to you. --->หัวใจของผมเป็นของคุณ








มีด ส้อม ช้อน เป็นสิ่งที่ ควรอยู่ด้วยกัน spoon belong with fork

ฟังเพลง Careful-Careless เรียนศัพท์

ครูพี่แนน ชื่อนี้มั่นใจว่า น้อยคนนะครับที่จะไม่รู้ ครูพี่แนนเป็นผู้ที่ได้นำบทเพลงมาร้อง เพื่อสอนภาษาอังกฤษ ซึ่งวิธีนี้ผมเห็นด้วยมากครับ เพราะสมองซีกซ้ายและขวาจะได้ทำงานไปพร้อมๆๆกัน






เพลง Careful-Careless เป็นเพลงที่ได้รวบรวมศัพท์ที่เกี่ยวกับศัพท์ที่แปลว่า รอบคอบและระมัดระวัง ซึ่งผมเคยฟังแล้ว ขอบอกว่าไพเราะมาก และผมก็ยังร้องทุกครั้งที่เหงา สำหรับผมเองไม่เคยเรียนกับครูพี่แนนแบบที่เขาเรียกว่าสอนสด เคยเรียนแต่ผ่านทีวีรายการติว ของกระทรวงศึกษาธิการ หากใครสนใจเรียนภาษาอังกฤษกับครูพี่แนนก้เชิญไปดูรายละเอียด ครูพี่แนน













เรามาดูกันเลยครับว่า เพลงนี้สอนศัพท์อะไรเราบาง





careful (แคร์'ฟูล) adj. ระมัดระวัง, ระวังรอบคอบ, ละเอียด, ถี่ถ้วน, ประณีต


cautious (คอ'เชิส)adj. ระมัดระวัง, รอบคอบ


discreet (ดิสครีท')adj. พิจารณารอบคอบ, สุขุม, ไตร่ตรองอย่างรอบคอบ, ระมัดระวัง.


discerning ระมัดระวัง


circumspect ระมัดระวัง


Look out ระมัดระวัง


watch out ระมัดระวัง


beware of you ระมัดระวัง

จากภาพข้างๆเนี๊ย ผมว่าผู้ชายคนนี้นะครับเขากำลังปีนเขา

เขาต้องใช้ careful คำเดียวคงไม่พอครับ ต้อง discerning

circumspect Look out

watch out beware







ส่วนคำที่ตรงข้ามกับคำข้างต้นที่กล่าวมาก้

careless

Rash
impetuous
reckless
impulsive
mindless
thoughtless
heedless


ซึ่งแปลว่า ประมาท นั้นเอง ก็ขอให้น้องๆๆอย่าหลงเวลา นะครับ ตอนนี้เรามีหน้าที่เยนขอให้ทำให้เต็มที่ อย่าประมาทในชีวิต แม้การเรียนก็ต้องรอบคอบ

วันอังคารที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2553

รวมศัพท์ Negative Personality Adjectives หยาบคาย

abrupt. ( อะบรัพทฺ' ) adj. หยาบคาย

วันศุกร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2553

รวมศัพท์ Negative Personality Adjectives รำคาญ



ภาพข้างบนเนี้ยนะครับ ใครที่ไม่เข้าพวกครับ หมา แมว ผู้ชาย ผู้หญิง เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ไหน ฮ่าๆๆ ถามเองตอบเองนะครับ ภาพข้างบนน่าจะเกิดจากห้องทำงาน หญิงอ้วนเมาส์แตกครับ ไม่สนใจใคร อย่างนี้เรียกว่าแม้แต่ dog ยัง abrasive

อ่ะฮ่า พอเดาออกแล้วใช้ไหมครับ ว่า abrasive แปลว่าอะไรครับ ........รำคาญ นั้นเอง abrasive เนี๊ยมีหลายความหมายนะครับ อีกความหมาย ก็ คม ครับ



abrasive เนี๊ย จะเป็นลักษณะที่ทำให้โกรธ ทำให้คือง อะไรประมาณนี้นะครับ


obtrusive เป็นอีกคำ ที่แปลว่า รำคาญ นะครับ แต่จะเป็นลักษณะการแส่ การเสือก ทำให้เรารำคาญ ประมาณว่าเรากำลังทะเลาะกับกิ๊กอยู่แล้ว น้องเราก็เดินมาถามว่าทะเลาะอะไรกันเหรอ เราก็จะ obtrusive น้องสาวเราอ่ะครับ

มีคำไหนอีกที่แปลว่า รำคาญ อ่ะนะก็คงมีอีกหลายคำ(หรือเปล่า) ยังไงใครผ่านช่วยเสริม เพิ่ม เติมให้ ความรู้แก่ผู้ที่แวะผ่านมาในบล็อกนี้ด้วยนะครับ (โดยเฉพาะผม)

วันพฤหัสบดีที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2553

adj เกี่ยวกับตัวเรา


รวมคำศัพท์ adj เกี่ยวกับตัวเราด้านลบครับ


abrasive
abrupt
abusive
afraid
aloof
ambiguous
angry
annoyed
anxious
arrogant
ashamed
awful
bad
belligerent
bewildered
boorish
bored
boring
callous
careless
clumsy
combative
confused
cowardly
crazy
creepy
cruel
cynical
dangerous
deceitful
defeated
defective
defiant
demonic
depressed
deranged
disagreeable
disillusioned
disturbed
domineering
draconian
embarrassed
envious
erratic
evasive
evil
faded
fanatical
น้องสาวผมจบด้านภาษาอังกฤษมาแนะนำให้ท่องหรืออ่านadj เยอะๆๆครับ

วันพุธที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2553

remind remember





วันนี้ได้ค้นหาคำว่า remind ซึ่งแปลว่าจำได้ พบมีผู้รวบรวมคำศัพท์ที่แปลว่า จำได้ และยกตัวอย่างประโยคที่น่าสนใจไว้ ก็เลยเอามาให้อ่านบางส่วนนะครับ หากสนใจอ่านเต็มๆๆก็--->http://www.tutoronline.co.th/webboard/index.php?action=printpage;topic=2841.0



จำได้ มีอยู่หลายคำ คำแรกคือto remember คำนี้มีความหมายและวิธีใช้หลายอย่าง ข้อแรกก็คือ to remember แปลว่าจำได้ เช่น - Remember this well. จำข้อนี้ไว้ให้ดี- Please remember to post my letter. อย่าลืมทิ้งจดหมายให้อั๊วด้วยนะเว้ยข้อควรสังเกตเป็นพิเศษของ to remember คือความแตกต่างระหว่าง to remember to do something ซึ่งแปลว่าจำได้ว่าต้องทำอะไร (คือยังไม่ได้ทำ) และ to remember doing something ซึ่งแปลว่าจำได้ว่าทำอะไรไปแล้ว (คือทำไปแล้ว และยังจำได้)นอกจากนี้ to remember ยังมีความหมายอีกหลายอย่างที่คนไทยมักไม่ค่อยทราบกัน เช่น- He remembered me in his will. เขาทำพินัยกรรมยกสมบัติบางอย่างให้อั๊วด้วย- Please remember the two men who have helped us. โปรดอย่าลืมให้รางวัลสองคนนั้นที่ช่วยเราด้วย- Please remember me kindly to your wife. โปรดบอกเมียเอ็งด้วยนะว่าข้าระลึกถึง


จำหรือจำได้ คือ to recall ซึ่งแปลว่าระลึกถึงหรือจำได้ เช่น- I recall having met him in London. อั๊วจำได้ว่าเคยพบเขาที่ลอนดอน- Do you recall what happened during the coup d'etat? เอ็งจำเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างรัฐประหารได้มั้ย?



มีอีกคำหนึ่งซึ่งมีความหมายใกล้เคียงกันคือ to recollect เช่น - He recollected the old days at the university. เขาจำความหลังครั้งอยู่มหาวิทยาลัยได้


คำว่า to recall และ to recollect ต่างกับ to remember ตรงที่ว่าต้องรวบรวมความคิดหรือพยายามฟื้นความจำ. ส่วน to remember นั้นคือจำได้เองโดยไม่ต้องพยายาม


คำที่ยกมาพูดข้างต้นนี้โดยมากใช้กับสิ่งของ ไม่ใช้กับคน คำภาษาอังกฤษที่ตรงกับภาษาไทยว่าจำ (คน) ได้คือ to recognize เช่น- Do you recognize him? You have seen him before. เอ็งจำเค้าได้มั้ย เคยเห็น (หรือพบ) เค้ามาแล้ว- I must have seen her yesterday, but I did not recognize her. เมื่อวานนี้อั๊วต้องเห็นเธอแน่ๆ แต่จำเธอไม่ได้วะความแตกต่างระหว่าง to recognize a person และ to remember a person คือto recognize นั้นคือเห็นเข้าแล้วถึงจำได้ว่าเป็นคนที่เคยพบปะสนทนากันมาก่อนto remember นั้นแปลว่ายังจำได้ คือยังอยู่ในความทรงจำ ถึงแม้จะพบหรือไม่พบก็ตาม



ยังมีคำอีกคำหนึ่งที่แปลว่า จำหรือจำได้ คือ to place มักใช้กับคน แปลว่าจำได้ว่าเป็นใคร ทำอะไร อยู่ที่ไหน สำคัญอย่างไร และเคยพบกันเรื่องอะไร เช่น- I think I know this man. His face is very familiar, but I can't place him. อั๊วคิดว่ารู้จักคนๆ นี้ เพราะต้องเคยเห็นหน้าแน่ แต่จำไม่ได้ว่าเป็นใคร ทำอะไร เคยพบกันที่ไหน


และคำสุดท้ายที่แปลว่าจำ คือ to memorize แต่คำนี้มีความหมายแปลกออกไป คือแปลว่าท่องจำหรือจำขึ้นใจ จะมีความหมายเดียวกับคำว่า to recite เช่น- I can't memorize such a long passage. อั๊วจำข้อความยาวๆ อย่างนี้ไม่ได้หรอก


วันพฤหัสบดีที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2553

30 วัน กับ GAT ภาคEnglish ตอนที่ 1


สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน หลายคนอาจเคยเจอกับ คำถามนี้ (ผมเคยมาแล้ว) เหลือเวลาอีก 30 วันจะอ่านหนังสือสอบทันไหม ผมเองก็ไม่ทราบว่าจะทันหรือไม่ แต่หากเรามีการวางแผนในการต่อสู้ก่อนออกรบ ก็น่าจะดีหรือเสียหายน้อยกว่าไม่วางแผนอะไรเลย




เริ่มจากการสำรวจผู้ต่อสู้ก่อนนะครับ นั่นก็คือข้อสอบ ข้อสอบ English ผมคิดว่าแบ่งเป็น 3 ส่วนใหญ่ 1.บทสนทา 2.ไวยกรณ์ 3.คำศัพท์ หรือ อ่านการวิเคราะหืของกูรูในเรื่องนั้นๆ สำหรับ ภาษาอังกฤษ ครูพี่แนนได้วิเคราะห์ไว้ ก็สามารถไปหาโหลดได้ที่ http://www.enconcept.com/ หรือทิ้ง mail ไว้ผมจะส่งไปให้ครับ



ขั้นต่อไป เราต้องมาสำรวจตัวเองแล้วละครับ ว่าเรามีความรู้ในแต่ละด้านมากแค่ไหน ผมแนะนำให้ท่านไปอ่านตามลิงค์นะครับ


1.ด้านคำศัพท์ มีเวบสอนภาษาอังกฤษฟรี เวบหนึ่งที่รวบรวมสิ่งดีๆในการพัฒนาภาอังกฤษไว้เยอะมากและมี เรื่อง 1 ชื่อเรื่องว่า "ต้องรู้คำศัพทืกี่ตัวถึงจะพอใช้" ตามไปอ่านรายลเอียดเลยนะครับ http://intereladsd.blogspot.com/2007/03/94.html



2. สำหรับด้านไวยกรณ์ก็คงไปตามลิงค์นี้นะครับ http://a4esl.org/a/g.html


ก็ลองๆๆดูนะครับว่าเราจะมีความพร้อมในการสอบมากน้อยแค่ไหน สำหรับวันนี้ผมขอพอแค่นี้ก่อน คิดอะไรไม่ออกแล้วครับต้องไปอ่านหนังสือต่อ เพราะอีก 30 วันจะสอบแล้ว......................




วันอังคารที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2553

รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้ง จักชนะร้อยครั้ง


บทความนี้เป็นบทความที่ 2 ของ Blog ผมได้นำเอาคำกล่าวของท่าน อาจารย์ซุนวู ที่ว่า"รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง" ซึ่งก็ถือได้ว่าเป็นหัวใจสำคัญในการทำสงคราม


สำหรับประวัติของท่านอาจารย์ซุนวูก็ขอให้ถามพี่ GOOGLE แล้วกันนะครับ




ผมได้เรียนท่านผู้อ่านแต่แรกแล้วว่า Blog นี้เป็น Blog ที่มุ่งเน้นผลประโยนช์แก่นักเรียนเป็นหลัก ซึ่งตามความตั้งใจจริงของกระผม ก็คงเป็นนักเรียนชั้น ม.ปลาย ที่กำลังจะสอบเข้า ค้นหา คณะที่ตนเองสนใจ ใคร่ศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา






รู้เขา รู้เรา นั้นผมก็ขอให้นักเรียนได้สำรวจตนเองว่าเรามีความพร้อม มีความรู้ มีอาวุธ ใดบ้างที่ช่วยให้เราได้เข้าเรียนในระดับอุดมศึกษา ในคณะ สาขา วิชา ที่เรา ท่านสนใจ ใคร่เรียน .จากนั้นก้ต้องสำรวจว่า คณะ สาขา วิชาที่ท่านสนใจ ต้องสอบวิชาอะไรบ้าง เนื้อหาที่ใช้สอบมีอะไรบ้าง แล้วประเมินครับว่า ณ เวลานี้เราพร้อม เราได้เปรียบ เราสมควรที่จะได้เรียนในคณะที่เราเฝ้าใฝ่ฝันหรือไม่


เข้าใจว่าเด็ก ม.ปลาย ทุกวันนี้จะต้องสอบ O-NET ,A-NET,GAT,PAT รายละเอียดจริงๆผมยังไม่ทราบ แต่เข้าใจว่าเนื้อหาหลักๆแบ่งเป็น MATH,วิทยาศาตร์,ENGLISH และส่วนของความถนัด(หรือที่เรียกว่า ข้อสอบคิดเชื่อมโยง)


ดังนั้นก็ขอให้น้องๆโดยเฉพาะ ม.6 ต้องสำรวจ จุดอ่อน จุดแข็งของเราแล้วครับ สำรวจเสร็จก็ขอให้รีบกำจัดจุดอ่อนของเราเสีย


สำหรับกลยุทธในการสอบในแต่ละวิชา ให้น้องสำรวจตัวเองทุก 7 วัน ว่าในแต่ละวิชาเราพัฒนาความรู้ ความสามารถ ของเราได้เพิ่มขึ้นจาก 7 วันที่แล้วหรือไม่

ถ้าคำตอบคือไม่ ก้ขอให้เร่งพัฒนาความรู้วิชาการสาวนนั้นนะครับ


แล้วอีกเรื่องหนึ่งน้องๆต้องไม่เสียเวลากับอดีต แล้วไปคิดมากกับอนาคตจนเกินไปนะครับ ต้งอยู่กับปัจจุบัน คือน้องมีหน้าที่เรียนขอให้เรียนรู้อย่างเต็มที่ สวัสดีครับ





ศิษย์เก่าโรงเรียนอำนาจเจริญ

สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน BLOG นี้เป็นแหล่งที่ผมและเพื่อนๆซึ่งเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนอำนาจเจริญ จะทำการรวบรวมเนื้อหาสาระที่คิดว่ามีประโยชน์ต่อการเรียน การศึกษาต่อของน้องๆโรงเรียนอำนาจเจริญเจริญ

สำหรับท่านผู้อ่านที่เข้ามาอ่านBlogนี้แล้ว เห็นว่ามีประโยชน์ต่อนักเรียน ก็ขอใ
ห้ช่วยบอกต่อๆๆกันด้วยนะครับรวมทั้ง กล่าวชมเชยผมเพื่อเป็นกำลังใจด้วยครับ (ผมชอบลูกยอครับ)

หากเห็นว่าเนื้อหาส่วนไหนไม่เหมาะสม ไม่สมควร ผิดศีลธรรมอันดีของประชาชนชาวไทย หรือเป็นบทความที่อาจก่อให้เกิดความแตกแยก ความรู้สึกชิงชัง ของเราชาวไทยด้วยกัน ผมก็ขอความกรุณาท่านช่วยชี้แนะ ตักเตือน เพื่อประโยชนืแก่ตัวผมและนักเรียนที่เข้ามาอ่าน Blog นี้

เนื้อหาที่จะมามาเป็นบทความ ก็จะเป็นเนื้อหาที่ผมได้ทำการค้นคว้า ศึกษา แล้วเห็นว่ามีประโยชน์ แก่นักเรียน นักศึกษา หรือผู้สนใจ โดยเนื้อหานั้นจะถ่ายทอดด้วยภาษา สำเนียง ท่วงทำนอง ของผมเอง ซึ่งอาจจะวกไปเวียนมาบ้าง ก็ขออภัยไว้นะที่นี้ด้วย

ครั้งนี้ไม่ได้เตรียมเนื้อหา ข้อมูลใดๆๆมาเขียนจึงขอแนะนำจังหวัดอำนาจเจริญตามลิงค์ http://tourthailand-northeastern.blogspot.com/2009/07/blog-post.html

อีกเรื่องที่ต้องใช้คำว่าขอร้องและกรุณา อ่าน blog นี้เล่นๆๆ อย่าอ่านเอาจริงเอาจัง และบทความทั้งหมดในBLOG นี้ไม่สามารถใช้อ้างอิงใดๆได้ทั้งนั้น

บทความที่ได้รับความนิยม